วินิซิอุสแฮตทริก เรอัล มาดริด ถล่ม บาร์เซโลนา 10 คน คว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญา สมัยที่ 13

เรอัลมาดริด การแข่งขันฟุตบอลซูเปร์โกปา เด เอสปันญา สเปน เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เป็นนัดชิงชนะเลิศ เตะที่สนามอัล อาวัล พาร์ก แอต คิง ซาอุด ยูนิเวอร์ซิตี กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ทีมรองแชมป์เก่า เจอกับ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ซึ่งเป็นแชมป์เก่า และยังนับเป็นศึก เอล กลาซิโก หนที่ 255 อีกด้วย

เกมนี้ เรอัล มาดริด ใช้งาน วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก และจูด เบลลิงแฮม ลงสนาม ขณะที่ บาร์เซโลนา นำโดย เปดรี, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และเฟร์ราน ตอร์เรส

ครึ่งแรก

เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ จูด เบลลิงแฮม จ่ายบอลด้วยซ้ายทะลุช่องอย่างสุดสวยให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อินญากี เปนญา นายด่าน บาร์เซโลนา ในกรอบเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะล็อกหลบ เปนญา และยิงเข้าไปง่ายๆ

อีกเพียง 3 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะที่ โรดรีโก กระชากเดี่ยวมาทางฝั่งขวาของแดน บาร์เซโลนา เข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายถวายพานให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่วิ่งเติมขึ้นมาสไลด์บอลเข้าประตูไป และเป็นลูกที่สองของเขาในเกมนี้

นาที 33 บาร์เซโลนา ไม่ยอมแพ้ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ อิลกาย กุนโดกัน ไหลออกทางซ้ายในกรอบเขตโทษให้ ฌูลส์ กุนเด เปิดบอลเข้ากลางซึ่ง แฟร์กล็องด์ เมนดี โหม่งสกัดไม่ดีมาเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่ยืนอยู่บริเวณหัวกะโหลกวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับบอลพุ่งผ่านมือ อันเดร ลูนิน ผู้รักษาประตู เรอัล มาดริด สวยงาม

นาที 37 เรอัล มาดริด มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ โรนัลด์ อเราโฮ ไปเหนี่ยวคอ วินิซิอุส จูเนียร์ ล้มในกรอบเขตโทษ และเป็น วินิซิอุส ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาดในนาที 39 พาทีมทิ้งห่าง 3-1 และเป็นแฮตทริกของเขาในเกมนี้ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลัง

นาที 64 เรอัล มาดริด หนีเป็น 4-1 จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ รับบอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายเข้ากลางซึ่ง ฌูลส์ กุนเด สกัดไม่ดีมาเข้าทาง โรดรีโก ยิงสวนด้วยขวาตุงตาข่าย

นาที 71 สถานการณ์ของ บาร์เซโลนา ยิ่งย่ำแย่หลังพวกเขามาเหลือผู้เล่น 10 คนจากจังหวะที่ โรนัลด์ อเราโฮ ไปเสียบใส่ วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่เขาออกจากสนาม

หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด ถล่ม บาร์เซโลนา แชมป์เก่าที่เหลือผู้เล่น 10 คนขาดลอย 4-1 คว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญา สเปน ไปครองเป็นสมัยที่ 13 ต่อจากปี 1988, 1989, 1990, 1993, 1997, 2001, 2003, 2008, 2012, 2017, 2019–20, 2021–22 และเป็นการชนะ 3 นัดติดต่อกันของ “ราชันชุดขาว” ในเกม “เอล กลาซิโก” ด้วย

ขอขอบคุณบทความจาก : เรอัลมาดริด